ผลไม้แช่แข็ง เป็นหนึ่งในอาหารทางเลือกยอดนิยมที่หลายคนให้ความสนใจ แต่คำถามที่มักตามมาเสมอคือ ผลไม้แช่แข็งดีไหม และมีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงหรือ?
บทความนี้ MAKESEND จะพาทุกคนไปเจาะลึก ไขความลับของผลไม้แช่แข็ง ตั้งแต่คุณประโยชน์ ข้อควรระวัง ไปจนถึงวิธีเตรียมก่อนกินที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณมั่นใจว่าทุกคำที่ทานนั้นเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และปลอดภัยสำหรับตัวคุณเอง

ผลไม้แช่แข็งคืออะไร
ผลไม้แช่แข็ง คืออาหารแช่แข็งอย่างหนึ่งที่นำผลไม้สดมาผ่านกระบวนการแช่แข็งอย่างรวดเร็ว เพื่อคงคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติ และเนื้อสัมผัสไว้ให้ได้มากที่สุด กระบวนการนี้จะหยุดการทำงานของเอนไซม์และจุลินทรีย์ที่ทำให้ผลไม้เน่าเสีย ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้น ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับผลไม้ตามฤดูกาลได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะนำไปทำสมูทตี้ โยเกิร์ต หรือเป็นส่วนผสมในขนมต่าง ๆ ก็สะดวกสบายและเข้าถึงง่าย
ผลไม้ที่นิยมนำมาแช่แข็ง
ผลไม้หลากหลายชนิดเหมาะสำหรับการแช่แข็ง โดยเฉพาะผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักและมีเนื้อสัมผัสที่สามารถทนต่อการแช่แข็งได้ดี ตัวอย่างผลไม้ที่นิยมนำมาแช่แข็ง ได้แก่
- เบอร์รี่ทุกชนิด เช่น สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่
- ผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง สับปะรด กล้วย มังคุด ทุเรียน
- ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น เชอร์รี่ พีช แอปริคอต
- ผลไม้เนื้อนิ่ม เช่น องุ่น แตงโม (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ)
ผลไม้แช่แข็ง ดีไหม? มีประโยชน์หรือเปล่า?
คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยคือ ผลไม้แช่แข็งมีประโยชน์ไหม? คำตอบคือ “ดีและมีประโยชน์” อย่างแน่นอน และในบางกรณีอาจมีประโยชน์ไม่แพ้ผลไม้สดเลยทีเดียว โดยข้อดีและประโยชน์ของผลไม้แช่แข็งมีดังนี้
1. คงคุณค่าทางโภชนาการ
การแช่แข็งอย่างรวดเร็วช่วยล็อกวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระไว้ในผลไม้ได้ดีเยี่ยม งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่าผลไม้แช่แข็งบางชนิด เช่น บลูเบอร์รี่ หรือถั่วลันเตา อาจมีปริมาณวิตามินซีและโฟเลตสูงกว่าผลไม้สดที่เก็บไว้นานหลายวัน เพราะผลไม้สดมักสูญเสียวิตามินเมื่อเวลาผ่านไป
2. เพิ่มความสะดวกสบาย
ผลไม้แช่แข็งช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาปอก หั่น หรือเตรียม เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อยหรือต้องการความรวดเร็วในการประกอบอาหาร
3. ลด Food Waste
การที่เรานำผลไม้มาแช่แข็ง นอกจากจะสามารถเก็บไว้ได้นาน ยังจะช่วยลดปริมาณผลไม้สดที่เน่าเสียและต้องทิ้งไปในแต่ละครั้งได้ โดยเฉพาะผลไม้ที่ล้นตลาดหรือกินไม่หมดแล้ว
4. เข้าถึงผลไม้ตามฤดูกาลได้ง่าย
ผลไม้แช่แข็งทำให้เราสามารถบริโภคผลไม้บางชนิดที่ไม่ได้มีตลอดทั้งปีได้ตลอดเวลา เช่น ทุเรียน มังคุด
ผลไม้แช่แข็งอันตรายไหม
หลายคนอาจมีความกังวลว่า ผลไม้แช่แข็งอันตรายไหม? โดยทั่วไปแล้ว ผลไม้แช่แข็งที่ผลิตและจัดเก็บอย่างถูกวิธีจะไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. ไม่มีสารเติมแต่ง
ผลไม้แช่แข็งส่วนใหญ่จะไม่มีการเติมน้ำตาล สารกันบูด หรือสารเคมีอื่น ๆ หากไม่มีการระบุไว้บนฉลาก อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์เสมอ โดยเฉพาะเมื่อซื้อผลไม้แช่แข็งที่มีส่วนผสมอื่น ๆ เช่น น้ำเชื่อม น้ำผลไม้ หรือสารให้ความหวานเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลต่อปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ที่ได้รับได้
2. ยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อรา
กระบวนการแช่แข็งจะหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ทำให้ผลไม้ปลอดภัยจากการเน่าเสีย อย่างไรก็ตาม การปนเปื้อนอาจเกิดขึ้นได้หากผลไม้ไม่สะอาดก่อนการแช่แข็ง หรือมีการละลายและแช่แข็งซ้ำหลายครั้ง ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคที่แฝงอยู่กลับมาเจริญเติบโตได้เมื่อผลไม้ละลายน้ำแข็ง การรับประทานผลไม้แช่แข็งที่ละลายแล้วและทิ้งไว้นานเกินไปโดยไม่ได้บริโภคทันที อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคได้
3. อาจเกิดการปนเปื้อนข้าม (Cross-contamination)
ควรระมัดระวังเรื่องการปนเปื้อนข้าม (Cross-contamination) หากมีการเก็บผลไม้แช่แข็งรวมกับเนื้อสัตว์ดิบในช่องฟรีซ หากน้ำจากเนื้อสัตว์ดิบหยดลงบนผลไม้แช่แข็งที่ไม่มีการบรรจุหีบห่ออย่างแน่นหนา อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนแบคทีเรียได้ เพื่อความปลอดภัย ควรแยกเก็บผลไม้แช่แข็งในภาชนะที่ปิดสนิทและอยู่ห่างจากเนื้อสัตว์ดิบเสมอ

ผลไม้แช่แข็งต้องล้างไหม
คำถามที่พบบ่อยอีกคำถามคือ ผลไม้แช่แข็งต้องล้างไหม? คำตอบคือ “ควรล้าง” แม้ว่าผลไม้แช่แข็งส่วนใหญ่จะผ่านการล้างและทำความสะอาดมาแล้วก่อนการแช่แข็งจากผู้ผลิต แต่การล้างซ้ำอีกครั้งก่อนบริโภคก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อสุขอนามัยที่ดี กำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมาได้
วิธีการล้างผลไม้แช่แข็ง
- เตรียมกระชอนหรือตะแกรงตาถี่ และภาชนะสำหรับรองน้ำ
- เทผลไม้แช่แข็งในปริมาณที่ต้องการลงในกระชอน
- เปิดน้ำเย็นจากก๊อกน้ำให้ไหลผ่านผลไม้เบา ๆ พลางคนหรือใช้มือเกลี่ยผลไม้ เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้ทั่วถึง และล้างไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำที่ไหลผ่านผลไม้จะดูใสขึ้น ไม่มีเศษสิ่งสกปรกปะปนออกมา
- ยกกระชอนขึ้นและเขย่าไม่ต้องรุนแรง หรือวางพักไว้สักครู่ให้สะเด็ดน้ำออกให้มากที่สุด หากต้องการความแห้งสนิทสำหรับบางเมนู อาจใช้กระดาษอเนกประสงค์ซับ ก่อนนำไปใช้
- หลังจากล้างและสะเด็ดน้ำแล้ว ควรรีบนำผลไม้แช่แข็งไปบริโภคทันที หรือนำไปเป็นส่วนผสมในเมนูต่าง ๆ เพื่อรักษารสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ และป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียหากทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกินไป
วิธีการรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของผลไม้แช่แข็ง
การเก็บรักษาที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อให้ผลไม้แช่แข็งคงคุณภาพและความสดใหม่ได้นานที่สุด โดยสามารถทำตามเคล็ดลับที่ MAKESEND แชร์ให้ดังนี้
1. เก็บในช่องฟรีซเซอร์ที่อุณหภูมิเหมาะสม
รักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส (-0.4 องศาฟาเรนไฮต์) เสมอ อุณหภูมิที่คงที่และต่ำจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และชะลอการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ทำให้ผลไม้เสื่อมสภาพ
2. ปิดผนึกบรรจุภัณฑ์ให้สนิท
ใช้ถุงซิปล็อกสุญญากาศ หรือภาชนะที่ปิดสนิทและมีคุณภาพดี เพื่อป้องกันการเกิด “Freezer Burn“ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ผลไม้สูญเสียความชื้น ทำให้แห้ง แข็งกระด้าง และมีสีคล้ำ นอกจากนี้ การปิดผนึกที่แน่นหนายังช่วยป้องกันการดูดซับกลิ่นจากอาหารอื่น ๆ ในช่องฟรีซได้
3. หลีกเลี่ยงการละลายและแช่แข็งซ้ำ
นี่เป็นข้อควรระวังที่สำคัญที่สุด การที่ผลไม้ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งซ้ำจะส่งผลให้เนื้อสัมผัสและรสชาติของผลไม้เปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความนิ่มเละ หรือรสชาติที่จืดจางลง นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
รักษาคุณภาพของผลไม้แช่แข็งด้วยบริการขนส่งจาก MAKESEND
เมื่อพูดถึงการรักษาคุณภาพของสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวดเช่น ผลไม้แช่แข็ง การขนส่งที่รวดเร็วและได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่ต้องส่งผลไม้แช่แข็งให้กับลูกค้าปลายทาง บริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิหรือบริการจัดส่งสินค้าแช่เย็นของ MAKESEND จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการรักษาสภาพและความสดใหม่ของผลไม้แช่แข็งของคุณ ด้วยรถขนส่งที่มีห้องเย็นมาตรฐาน ระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ และกระบวนการจัดการที่รวดเร็ว จะช่วยให้ผลไม้ไม่เกิดการละลายระหว่างทาง และถึงมือผู้รับในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
MAKESEND ให้บริการจัดส่งผลไม้แช่แข็งในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล สามารถตรวจสอบสาขาใกล้บ้านคุณ หรือติดต่อ MAKESEND ได้แล้ววันนี้ที่ 02-026-6848 เปิดบริการทุกวันเวลา 07.00 – 21.00 น