How to set Ads 101 วิธียิงโฆษณาใน Facebook และ Instagram

How to set Ads 101 วิธียิงโฆษณาใน Facebook และ Instagram ปัจจุบันสื่อโซเชียลบนโลกออนไลน์ไม่เพียงแต่จะสามารถให้คุณสื่อสารกันได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถทำเป็นธุรกิจ e-commerce ได้ ซึ่งการนำเสนอขายสินค้าของแต่ละบุคคลก็จะมีความสนุกสนานที่แตกต่างกัน
Palo (น้องพะโล้)

Palo (น้องพะโล้)

How to set Ads 101 วิธียิงโฆษณาใน Facebook และ Instagram

SHARES

How to set Ads 101 วิธียิงโฆษณาใน Facebook และ Instagram

 

          ปัจจุบันสื่อโซเชียลบนโลกออนไลน์ไม่เพียงแต่จะสามารถให้คุณสื่อสารกันได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถทำเป็นธุรกิจ e-commerce ได้ ซึ่งการนำเสนอขายสินค้าของแต่ละบุคคลก็จะมีความสนุกสนานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการคิด Content ของแต่ละคนรวมไปถึงการนำเสนอสินค้าที่ดีมีคุณภาพให้กับลูกค้าที่ต้องการสั่งซื้อสินค้า แต่เชื่อหรือไม่ว่าด้วยเหตุผลบางประการก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ลูกค้าคนอื่นเข้าถึงผู้ขายได้ในปริมาณมากและรวดเร็ว ดังนั้นการโฆษณาจึงเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะทำการโฆษณาในสื่อ Social Media ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram จะต้องเข้าใจก่อนว่าผู้คนที่เข้ามาเสพสื่อต่าง ๆ บนโลกออนไลน์มักจะเน้นไปที่การดูรูปหรือวิดีโอเสียส่วนใหญ่ น้อยคนนักที่จะอ่านตัวหนังสือหรือเนื้อหาเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะคนในยุค Gen Z ที่ใช้เวลาในการพิจารณาสื่อไม่เกิน 8 วินาที หากดูแล้วไม่ใช่ก็จะเลื่อนผ่านในทันทีดังนั้นการทำโฆษณาหรือคอนเทนต์ยาว ๆ จึงไม่เหมาะกับคนในยุคนี้สักเท่าไหร่นักดังนั้นหากคุณต้องการให้คนยุคใหม่จับจ้องดูโฆษณาของคุณโดยไม่เลื่อนผ่านจะต้องทำโฆษณาในช่วงต้นเป็นที่น่าสนใจและใช้เวลาไม่นานก็จะช่วยให้มีผู้ติดตามได้มากขึ้น โดยในวันนี้จะมาแนะนำวิธีการ set โฆษณาใน Facebook และ Instagram เพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้หันมากดไลก์กดแชร์และ กดติดตามเพจของคุณให้มากขึ้น

•จัดแคมเปญโฆษณาของ Facebook และ IG ให้อยู่ด้วยกัน

         จากสถิติ Hootsuite ได้รายงานพฤติกรรมผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกในปี 2020  สำหรับประเทศไทยมีประชากรใช้งานอินเทอร์เน็ตคิดเป็น 75 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดและ Facebook เป็น Application ที่คนไทยใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลกมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 47 ล้านบัญชีในขณะที่ 98 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งาน Facebook มักจะใช้งานผ่านมือถือ  มีการพบว่า 1 ใน 5 นาทีของเวลาที่ใช้บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนหมดไปกับการเข้าดู Facebook และ IG ดังนั้นเมื่อต้องการลงโฆษณาให้สัมฤทธิ์ผลและเข้าถึงลูกค้ามากที่สุดก็ควรเลือกลงโฆษณาบน Facebook และ IG ในแคมเปญเดียวกัน เพราะ Facebook และ IG เป็นพันธมิตรกัน เพียงแต่ต้องปรับเปลี่ยนโฆษณาให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ทำ ขนส่งอาหารแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง โฆษณาใน Facebook อาจเน้นให้ข้อมูลการสั่งซื้อ แต่ใน IG อาจเน้นสร้างภาพลักษณ์และการรับรู้แบรนด์ด้วยวิดีโอสะดุดตา

• กำหนดวัตถุประสงค์ของ Facebook ADS ให้ตรงกับเป้าหมาย

      หมวดการรับรู้ (Awareness) เน้นให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงการโฆษณาร้านค้า ซึ่งสามารถเข้าถึงคนได้ในปริมาณมากและใช้ต้นทุนต่ำที่สุด

      หมวดการพิจารณา (Consideration) โฆษณานี้เน้นไปที่การมีส่วนร่วมของคนที่เห็นเช่น การมีส่วนร่วม, การติดตั้งแอป, จำนวนการรับชมวิดีโอ, การส่งข้อความ เป็นต้น

      หมวดคอนเวอร์ชัน (Conversion) วัตถุประสงค์ของหมวดนี้เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้ผู้เห็นโฆษณากระทำการบางอย่าง เช่น กดติดตามไปหน้าเว็บไซต์เพื่อดู Traffic หรือ กดซื้อสินค้า เป็นต้น

      ซึ่งก่อนที่จะทำการเลือกวัตถุประสงค์ของการโฆษณาจะต้องถามตนเองก่อนว่ามีเป้าหมายทางธุรกิจอย่างไร เช่น ทำ ขนส่งอาหารแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง เพื่อขายปลีก หรือขายส่ง เจาะลูกค้ากลุ่มไหน ก่อนที่จะลงมือทำ รวมถึงลงไปแล้วต้องสามารถวัดผลได้ ซึ่งบางโฆษณาสามารถเข้าถึงคนได้มากแต่ผลตอบรับการแชร์หรือส่งข้อความ, คอมเม้นท์ลงในเพจอาจมีน้อย ดังนั้นควรออกแบบ Content ที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้การโฆษณามีค่าใช้จ่ายที่ลดลง โดยจะต้องไม่ขัดกับเนื้อหากฎและข้อบังคับของผู้ให้บริการ

• กำหนดแคมเปญและชุดโฆษณา

        หลังจากกำหนดวัตถุประสงค์ของการลงโฆษณาแล้ว ต่อไปจะเป็นในส่วนของการกำหนดแคมเปญและชุดโฆษณาโดยการตั้งค่าโฆษณาจะต้องมีข้อมูลด้วยการทั้งสิ้น 3 ส่วนคือ แคมเปญ, ชุดโฆษณา และโฆษณา จึงจะสามารถรวมกันเป็น Facebook Ads ที่สมบูรณ์ได้ การยิงโฆษณาแบบโปรโมทโพสต์ คือ การสร้าง 1 แคมเปญ 1 ชุดโฆษณา 1 โฆษณา ซึ่งการโพสต์ 1 ครั้ง  ทำได้แค่นี้ ดังนั้นในการออกแบบแคมเปญโฆษณาควรจัดให้มีชุดโฆษณาอย่างน้อย 2 ชุด เพราะปัจจุบันมีการแข่งขันสูง คู่แข่งมาก โอกาสในการทำโฆษณาแบบโพสต์จึงเป็นไปได้ยาก เมื่อต้องการยิงโฆษณา ก็ควรศึกษาและเอาใจใส่อย่างถ่องแท้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

• ปรับแต่งงบประมาณให้เหมาะสม

         CBO หรือ Campaign budget optimization เป็นการปรับแต่งงบประมาณของแคมเปญโฆษณาใน Facebook ในรูปแบบใหม่ โดยเป็นการตั้งค่าชุดโฆษณาได้แบบอัตโนมัติก็จะช่วยให้งบโฆษณาถูกลงกว่าแบบเดิม เพราะมีการวิเคราะห์โฆษณาให้ โดยหากชุดโฆษณาใดให้ผลตอบรับดี โฆษณาชุดที่เหลือก็จะโดนปิดไปโดยอัตโนมัติและใช้เงินไปกับชุดโฆษณาที่ให้ผลตอบรับที่ดีกว่านั่นเอง สิ่งที่ต้องทำคือ

  • กลุ่มเป้าหมายจะต้องใกล้เคียงกัน
  • กำหนดงบประมาณให้พอดี
  • อย่าสร้างโฆษณาเยอะเกินไป
  • แบ่งชุดโฆษณาตาม Marketing Funnel
  • Re-Target

        หลายคนคงเกิดคำถามว่าทำไมจะต้อง Re-target ด้วยเพราะการยิงโฆษณาไปกลุ่มใหม่น่าจะได้ลูกค้ารายใหม่มากขึ้นกว่าเดิม แต่รู้หรือไม่ว่าจะทำให้โฆษณามีราคาที่สูงขึ้นจากเดิมเนื่องจาก Facebook มีการคิดอัตราค่าโฆษณาตามจำนวนครั้ง ดังนั้นการใช้เงินโฆษณาบน Facebook ในอดีตกับปัจจุบันจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน การยิงโฆษณาไปยังกลุ่มที่สนใจเราหรือลูกค้าเก่า สามารถยิงโฆษณาซ้ำ ๆ ในงบประมาณที่น้อยกว่าในขณะที่อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า สำหรับวิธีการ re-target มีมานานแล้วแต่หลายคนอาจจะไม่รู้ ดังจะเห็นได้จากโฆษณาตามโซเชียลและเว็บไซต์ต่าง ๆ เพียงแต่เกิดขึ้นใน Facebook เท่านั้นเอง ประเด็นที่สำคัญแค่คุณตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย โดยเป็นกลุ่มที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ก็จะทำให้การโฆษณาของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว

ที่มาของข้อมูล:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *