โลกธุรกิจยุคปัจจุบันมีการแข่งขันสูง สินค้าคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ไม่เพียงพอเสียแล้ว ต้องแข่งขันกันด้วยรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ที่สวย สร้างสรรค์ เหมาะกับสินค้าแต่ละประเภท การเลือกบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ ต้องดูว่าเลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบไหนจึงจะเหมาะสม เพราะนอกจากจะเพิ่มมูลค่าให้สินค้าแล้ว การจัดส่งยังปลอดภัยถึงมือผู้รับอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนอีกด้วย บรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่อยู่ในรูปกล่อง มีหลายแบบและขนาดแตกต่างกัน หัวใจสำคัญไม่ใช่ความสวยหรือลวดลายถูกใจ แต่เน้นการบรรจุหีบห่อที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้การจัดส่งของถึงที่หมายโดยปลอดภัย มาดูกันว่าบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ของแต่ละขนาดต่างกันอย่างไรวิธีการเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับของที่ต้องการส่ง ดอกไม้สด การส่งดอกไม้สดต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารองด้วยกระดาษลูกฟูก ใช้หนังยางหรือเชือกผูกดอกไม้ไว้กับกล่อง ถ้ามีแจกันด้วย ให้ใช้วัสดุกันกระแทกห่อแจกัน ผูกเชือกยึดแจกันไว้ไม่ให้เคลื่อนไหวในกล่องและใช้กระดาษลูกฟูกกั้นแยกแจกันกับดอกไม้ ใช้กระดาษห่อดอกไม้กันกระแทกระหว่างขนส่ง ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ ขนมเค้ก คุกกี้ พาย ขนมปัง หรือขนมขบเคี้ยวที่แตกหักได้ นิยมบรรจุขวดโหลพลาสติกใสดูสวยงาม ใส่ในกล่องกระดาษบรรจุแผ่นกันกระแทก เป็นของขวัญของฝากเหมาะกับผู้รับทุกเพศวัย ขนมเหล่านี้บรรจุถุงพลาสติกได้ แต่การใส่ขวดพลาสติกช่วยเก็บไว้ได้นานขึ้น ป้องกันอากาศ เชื้อจุลินทรีย์ได้ หรือไม่แตกหักในระหว่างการขนส่ง ส่วนขวดแก้วดูสวยหรูกว่าแต่ไม่แนะนำ เพราะเกิดความเสียหายได้ง่าย การขนส่งต้องระมัดระวังมาก ขวดแก้วราคาแพงและยังมีน้ำหนักมาก ทำให้สิ้นเปลืองค่าขนส่งอีกด้วย แผ่นรองกระแทกหรือบับเบิ้ลเติมช่องว่างใช้ได้ในทุกกรณี ไม่ว่าจะใส่ซองป้องกันถุงขนมแตกหักหรือห่อของไว้ในกล่องพัสดุ น้ำผลไม้ น้ำผลไม้เสื่อมคุณภาพและบูดเสียได้เร็ว ยิ่งเป็นผลิตภัณฑ์โฮมเมดที่ไม่ได้ใส่สารยืดอายุการเก็บรักษา ต้องเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันจุลินทรีย์และอากาศซึมผ่านได้ดี นิยมใส่ขวดแก้วที่มีปฏิกิริยากับน้ำผลไม้น้อยที่สุด หรือขวดพลาสติกที่มีน้ำหนักเบาช่วยให้ขนส่งง่ายและสะดวก นำมาบรรจุในกล่องกระดาษที่แข็งแรงอีกชั้นหนึ่ง แผ่นรองกระแทกหรือบับเบิ้ลเป็นอุปกรณ์ตัวช่วยป้องกันการเขย่าหรือกระแทกไปมา ทางที่ดีควรใช้บริการส่งสินค้าแช่เย็นและควบคุมอุณหภูมิสำหรับของที่เน่าเสียง่าย
คอมพิวเตอร์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือของที่มีน้ำหนักมาก อยากส่งของใช้ราคาแพงก็กังวลเรื่องความปลอดภัย สิ่งที่ต้องใส่ใจอย่างมากคือการเลือกกล่องบรรจุภัณฑ์ของบริการจัดส่งพัสดุโดยตรง ซึ่งออกแบบตามมาตรฐาน มั่นใจได้ทั้งเรื่องขนาดและความแข็งแรง การจัดส่งของที่น้ำหนักมาก จะต้องใช้กล่อง 2 ชั้น โดยวางกล่องเล็กข้างในกล่องชั้นนอก ถ้าพัสดุบอบบางและไม่ทนต่อการกระแทก ควรใช้กล่องที่มีวัสดุกันกระแทกชนิดหนา อัดด้วยโฟม หรือใช้บับเบิ้ลห่อไว้หนาอย่างน้อย 3-4 นิ้ว แล้วใส่บับเบิ้ลเติมช่องว่างให้เต็มจนเคลื่อนไหวไม่ได้ ปิดผนึกกล่องติดเทปบนรอยต่อทั้งด้านบนและด้านล่าง กล่องชั้นนอกควรมีมิติใหญ่กว่ากล่องด้านในอย่างน้อย 6 นิ้ว เพื่อให้มีช่องว่างระหว่างกล่อง 2 กล่อง ด้านนอก 3 นิ้วเพื่อใส่เม็ดโฟมหรือแผ่นโฟมเข้ามุมเพื่อกันกระแทกการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสินค้าจะช่วยรักษาคุณภาพ ใช้บรรจุสินค้าหรือสิ่งของได้ง่ายและง่ายต่อการจัดส่งอีกด้วย นอกจากนั้นยังสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้แบรนด์ทั้งเรื่องมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ ทำให้ลูกค้าประทับใจและบอกต่อกัน
