อาหารสำเร็จรูปสำหรับแมวและสุนัขโดยทั่วไปมี 2 รูปแบบหลักคืออาหารเม็ดและอาหารเปียกที่บรรจุซองหรือกระป๋องซึ่งรวมถึงอาหารเนื้อดิบแบบ barf ที่เข้ามาเป็นทางเลือกยอดนิยมในปัจจุบัน ความแตกต่างพื้นฐานคืออาหารเปียกมีกลิ่นหอมน่ากินและมีปริมาณน้ำมากกว่าอาหารเม็ดหลายเท่า ขณะที่อาหารแห้งเก็บไว้ได้นาน เก็บรักษาง่ายกว่า คำถามที่ว่าอาหารชนิดใดดีกว่าเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสีย มาดูกันว่าควรเลือกแบบไหนดี
Table of Contents
อาหารเปียกและอาหารแห้งต่างกันตรงไหน


1. ความแตกต่างพื้นฐานระหว่างอาหารเปียกและอาหารแห้งคือความชื้น
อาหารเปียกมีปริมาณความชื้นระหว่าง 60% ถึง 85% อาหารแห้งแบบเม็ดมีความชื้น 3% ถึง 15% อาหารเปียกเหมาะกับแมวที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะและไต ช่วยให้กินน้ำได้มากขึ้นและปัสสาวะบ่อยขึ้น ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอช่วยรักษาโรคไตและปัญหาสุขภาพอื่นๆ
2. อาหารแห้งเก็บรักษาง่ายและมีอายุยาวนาน
ส่วนอาหารเปียกที่แมวและสุนัขกินไม่หมดในครั้งเดียว อาจจะบูดเสียง่ายกว่า หากกินไม่หมดใน 5-10 นาทีควรเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อไม่ทำให้สิ้นเปลือง
3. เปรียบเทียบด้านคุณค่าทางโภชนาการ
ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ที่ได้มาตรฐานไม่ว่าจะแบบแห้งหรือเปียกมีคุณค่าทางโภชนาการดีเยี่ยม วัตถุดิบส่วนผสมมีคุณภาพสูงและสัดส่วนถูกต้องจะให้สารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญแก่สุนัขและแมว
4. อาหารแห้งมีแคลอรี่สูงกว่าอาหารเปียก 3-4 เท่า
เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารปริมาณเท่ากัน เจ้าของควรให้อาหารเปียกปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เปียกพอกับความต้องการ การให้อาหารแห้งปริมาณน้อยกว่าซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
5. อาหารชนิดใดดีต่อฟันของสัตว์เลี้ยงมากกว่า
แต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสีย อาหารแห้งเม็ดแข็งช่วยขัดทำความสะอาดฟันได้ดีแต่ขณะเดียวกันอาหารแห้งมีส่วนผสมของแป้งที่เกาะติดแน่นกับฟันเป็นสาเหตุของฟันผุและคราบหินปูนเกาะผิวฟัน
อาหารเปียกมีประโยชน์อย่างไร

อาหารเปียกที่มีคุณภาพสำหรับแมวและสุนัขมีคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก เคี้ยวกลืนง่าย มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นกระตุ้นให้สัตว์เลี้ยงมีความอยากอาหารมากขึ้น เหมาะกับแมวหรือสุนัขที่ช่างเลือกและกินยากจะยอมกินอาหารเปียกมากกว่า นอกจากอาหารเปียกสำเร็จรูปแล้วยังเติมผักผลไม้และสารอาหารอื่น ๆ เช่น สาหร่าย นม โยเกิร์ต ผสมลงไปได้ง่ายเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น แมวหรือสุนัขที่กินน้ำน้อยมีความเสี่ยงเป็นโรคไตควรให้อาหารเปียกเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกาย
อาหารแห้งมีประโยชน์อย่างไร

อาหารแห้งเป็นทางเลือกที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่พอใจเพราะมีประโยชน์ทั้งด้านราคาถูก ให้อาหารสะดวกและสะอาด อาหารแห้งแบบเม็ดให้พลังงานสูง มีแคลอรี่มากกว่าอาหารเปียก 3-4 เท่าจึงให้ปริมาณน้อยต่อมื้อเพียงพอกับความต้องการของแมวและสุนัข อาหารแห้งจึงเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าอาหารเปียกซึ่งมีราคาต่อซองหรือกระป๋องแพงกว่าอาหารเม็ดอยู่แล้ว การเก็บรักษาอาหารแห้งทำได้ง่าย ให้อาหารสะดวก เทง่ายไม่หกเลอะเทอะ ไม่มีกลิ่นและเก็บกวาดง่ายด้วย อย่างไรก็ดี อาหารเม็ดเคี้ยวยากเป็นปัญหาสำหรับแมวและสุนัขบางตัวที่ชอบเขี่ยอาหารเล่นไม่ยอมกิน บางตัวมีปัญหาเกี่ยวกับเหงือกและฟันทำให้กินอาหารได้น้อยไม่เพียงพอกับความต้องการ แนะนำให้ผสมน้ำให้อาหารนิ่มลงและกลืนง่ายขึ้น
อาหารดิบแบบ BARF ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ

สำหรับเจ้าของที่ให้อาหารคลุกกับสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นประจำหรือเป็นครั้งคราว จำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารแบบ barf ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน “บาร์ฟ” ย่อมาจาก “Bone and Raw Food” หรือ “Biological Appropriate Raw Food” เป็นอาหารที่มีเนื้อดิบไม่ผ่านความร้อนเป็นส่วนผสมหลัก ผสมรวมกับกระดูกติดเนื้อ โครงไก่ ไข่ดิบ ผักผลไม้และอาหารเสริมอื่น ๆ นำมาบดคลุกรวมกัน มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีนที่เป็นสารอาหารหลักซึ่งแมวและสุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสัตว์ป่าต้องการมากเป็นพิเศษ สัตว์เลี้ยงทั้งสองชนิดไม่ได้ต้องการคาร์โบไฮเดรตมากนัก การกินข้าวคลุมทำให้สุนัขมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเกิน นอกจากนี้การคลุกข้าวกับเมนูอาหารทั่วไป เช่น ไก่ทอด ไก่ย่าง หมูปิ้ง ซึ่งมีสารปรุงแต่งมากมายเสี่ยงอันตรายและนำไปสู่โรคภัยต่าง ๆ ในระยะยาว
ประโยชน์ของอาหารบาร์ฟคือการเลือกวัตถุดิบสดใหม่นำมาจัดเตรียมเป็นมื้อ โดยเฉพาะเนื้อดิบที่มีแบคทีเรียช่วยกระตุ้นเอนไซม์ช่วยระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย การรับประทานเนื้อเป็นหลักทำให้ควบคุมน้ำหนักตัวได้ดีขึ้น การเริ่มกินอาหารบาร์ฟต้องค่อยเป็นค่อยไปเพราะการเปลี่ยนอาหารในทันทีจะมีผลกระทบกับระบบร่างกายทำให้ท้องเสียได้ แนะนำให้เริ่มจากกินอาหารสำเร็จรูปสลับวันกับอาหารแบบบาร์ฟเพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาปรับตัว
กินอาหารเปียกหรือแห้งผสมกันได้หรือไม่
ในเบื้องต้นไม่แนะนำให้ผสมอาหารแห้งและเปียกเข้าด้วยกัน อาจเกิดปัญหาท้องเสียหรือท้องผูกในรายของสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร ในแต่ละมื้อควรให้อาหารอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น การเลือกให้อาหารประเภทเดียวยังช่วยให้ง่ายต่อการควบคุมปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายด้วย ในกรณีที่ให้อาหารเปียกและอาหารแห้งสลับกันในแต่ละมื้อได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ก็ยังจำเป็นต้องคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมในแต่ละวันด้วย หากสัตว์ที่เลี้ยงไว้มีปัญหาน้ำหนักเกิน ชอบกินอาหารมื้อละมากๆ แนะนำให้เลือกอาหารเปียกที่มีแคลอรี่ต่ำกว่า เพราะให้กินปริมาณมากกว่าอาหารแห้งได้ถึง 3-4 เท่าก็ยังคงมีปริมาณแคลอรี่เท่ากัน
ข้อควรระวังสำหรับการให้อาหารเปียกแบบบาร์ฟ
เจ้าของที่ต้องการลองให้อาหารเนื้อดิบแบบ barf ต้องเคร่งครัดกับการควบคุมปริมาณสารอาหารอย่างถูกต้อง เพื่อให้สัดส่วนสารอาหารมีความสมดุล ไม่มากหรือน้อยเกินไปซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว อีกทั้งต้องคำนวณปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัว และควรคำนึงถึงความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ใช้อยู่เสมอ โดยมีให้เลือกทั้งอาหารพร้อมรับประทานหรืออาหารแบบแช่แข็งซึ่งออกแบบมาเพื่อให้จัดเตรียมแต่ละมื้อเองที่บ้าน เจ้าของควรค้นคว้าข้อมูลด้วยความระมัดระวังและเลือกแบรนด์ที่จัดส่งด่วนในวันเดียวผ่านบริการของ MAKESEND ทั้งการส่งทั่วไปและการส่งแบบแช่เย็นควบคุมอุณหภูมิให้อาหารสดใหม่
สรุปว่า อาหารสัตว์แบบเปียกหรือแห้งที่ได้มาตรฐานล้วนมีคุณค่าทางโภชนาการไม่ต่างกัน เลือกรูปแบบใดก็ได้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เลี้ยง แมวและสุนัขชื่นชอบ กินแล้วสุขภาพดีและเลือกราคาที่จ่ายแล้วสบายใจไม่เกินกำลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก
- https://www.makesend.asia/
- https://www.facebook.com/MakesendTH/
- https://www.makesend.asia/raw-meat-based-barf-delivery/
- https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/34766
- https://www.yippeehappy.com/en/blog/detail/752/อาหาร-barf-คืออะไร-ดีต่อน้องหมาอย่างไรบ้าง
- https://pet.kapook.com/view49237.html