5 เทคนิคตรวจสอบพัสดุเก็บเงินปลายทาง ดูอย่างไรไม่ให้เป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

Palo (น้องพะโล้)

Palo (น้องพะโล้)

SHARES

การส่งพัสดุแบบ เก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery : COD) ได้รับความนิยมไม่น้อยจากผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ แต่ก็เป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพมาหลอกผู้สั่งของออนไลน์บ่อย ๆ จนสร้างความเสียหายให้แก่วงการ E-Commerce ไม่น้อย ดังนั้นมาดูกับ 5 เทคนิคตรวจสอบพัสดุ COD ให้ได้ของที่ใช่ ปลอดภัยจากมิจฉาชีพกัน

พัสดุเก็บเงินปลายทาง ถ้าเป็นของมิจฉาชีพเมื่อจับแล้วจะรู้สึกว่าน้ำหนักเบาผิดปกติ เพราะของข้างในมีมูลค่าไม่ถึงหลักสิบ หรือบางครั้งก็ไม่มีของอยู่ด้านในเลย ดังนั้นหากของมีน้ำหนักเบาจนเกินไป ควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนนั่นเอง

ก่อนเซ็นรับของทุกครั้งให้สังเกตฉลากพัสดุให้แน่ชัดว่าชื่อ-นามสกุลตรงกับคนในบ้านหรือไม่ เพราะพัสดุที่มาจากมิจฉาชีพ มักไม่มีชื่อปรากฏอยู่บนจ่าหน้าซอง หรือในกรณีที่มีชื่อ-นามสกุล แต่ชื่อที่ปรากฏก็จะไม่ใช่คนในครอบครัวเรา ดังนั้นในกรณีนี้มั่นใจได้เลยว่าเป็นของมิจฉาชีพแน่นอน ให้ปฏิเสธไปเลยไม่ต้องเกรงใจ!

เมื่อพัสดุมาส่ง อันดับแรกควรถามคนในครอบครัวว่ามีใครสั่งพัสดุมาหรือไม่? เพราะมีหลายเคสที่พนักงานบริษัท E-commerce เป็นมิจฉาชีพเสียเอง โดยการปั๊มชื่อ-สกุลของลูกค้าลงบนกล่องพัสดุ ทั้งที่ไม่ได้สั่งของมา เมื่อผู้รับไม่ทันสังเกตก็หลงเชื่อจ่ายเงินปลายทางไป ดังนั้นจึงควรสอบถามคนในบ้านก่อนจ่ายเงินทุกครั้งว่าได้สั่งของให้มาส่งที่บ้านจริง ๆ หรือไม่

หากรู้สึกว่าราคาของพัสดุไม่สัมพันธ์กับความเป็นจริง เช่น ผู้ขนส่งแจ้งว่าสินค้าคือ นาฬิกาแบรนด์เนม แต่เก็บเงินเพียง 300 บาท ให้ตั้งคำถามก่อนเลยว่าเป็นไปได้อย่างไร? และก็มีเหยื่อจำนวนไม่น้อยหลงเชื่อ เผลอจ่ายเงินให้ เพราะคิดว่าได้ของดีในราคาประหยัด ซึ่งความจริงแล้วเป็นกลลวงของมิจฉาชีพนั่นเอง

เพื่อให้การเช็กพัสดุ COD สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สั่งของออนไลน์จำนวนมาก จนไม่รู้ว่าพัสดุกล่องไหนเป็นของคุณกันแน่ สามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทขนส่ง เพราะเป็นระบบรายงานแบบ Real time ดังนั้นหากมีพัสดุต้องสงสัยมา เพียงแค่เปิดแอปขึ้นมาเช็กดูได้เลยว่าเราเป็นผู้สั่งจริงหรือไม่ เท่านี้ก็รอดพ้นจากการถูกหลอกลวงโดยมิจฉาชีพแล้ว

รู้หรือไม่ว่าถ้าเผลอเซ็นรับกล่องพัสดุจากมิจฉาชีพ ซึ่งภายในเป็นยาเสพติด คุณอาจจะติดร่างแหการโดนดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ดังนั้นหากได้รับพัสดุมาทั้งที่ไม่ได้สั่ง นอกจากจะไม่ควรจ่ายเงินให้แล้ว ยังต้องหลีกเลี่ยงการเซ็นรับด้วย

การสั่งของแบบ เก็บเงินปลายทาง ช่วยให้เรามั่นใจด้วยว่าจะได้รับของจากร้านค้าออนไลน์แน่นอน ทำให้หากไม่มีสินค้ามาส่งตามเวลาที่กำหนด ก็ทำเรื่องยกเลิกสินค้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสั่งของออนไลน์จากต่างประเทศที่มีโอกาสสินค้าสูญหายและไม่ถึงมือผู้รับง่ายกว่าการขนส่งสินค้าในประเทศ

หากสังเกตเห็นพัสดุภายนอกมีรอยแตก เสียหายระหว่างการขนส่ง ผู้สั่งซื้อสามารถปฏิเสธไม่รับสินค้านั้น ๆ ได้ด้วย การันตีได้เลยว่าจะได้ของดี มีคุณภาพ

บริการเก็บเงินแบบ COD ยังช่วยให้ผู้สั่งของออนไลน์ไม่เก่ง และไม่รู้ว่าต้องจ่ายเงินผ่าน Mobile Banking อย่างไร เช่น ผู้สูงอายุ ก็สามารถใช้บริการซื้อของออนไลน์ได้ สะดวกรวดเร็ว ตรวจเช็กคุณภาพของก่อนจ่ายเงินได้

ผู้สั่งของออนไลน์จำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าการสั่งของแบบ COD ได้รับสินค้าเร็วกว่าการส่งรูปแบบอื่น ประมาณ 1 วัน ดังนั้นนอกจากไม่ต้องกังวลเรื่องถูกโกงแล้ว ยังได้ของไวในกรณีที่ต้องใช้ด่วนด้วย

บริษัทขนส่งที่มีจุดเด่นด้านจัดส่งสินค้าไว ส่งได้สูงสุด 25 กิโลกรัม ถึงปลายทางภายในวันเดียว ชนิดที่ว่าสั่งเช้า-ได้เย็น มาพร้อมกับบริการเก็บเงินแบบ COD ที่โอนเงินให้แก่พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์รวดเร็ว จึงเป็นมิตรแท้สำหรับผู้ทำธุรกิจที่ต้องการใช้เงินสดด่วน

ที่สำคัญเมื่อได้รับกล่องพัสดุต้องสงสัยว่าเป็นของมิจฉาชีพ ให้คุณถ่ายรูปพัสดุ, รายละเอียดผู้ส่ง และเลขพัสดุ จากนั้นไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ม.341 ฐานฉ้อโกง นอกจากนี้ก่อนเปิดพัสดุทุกครั้งควรถ่ายวิดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย เมื่อสินค้าไม่ตรงปก ก็สามารถทำเรื่องเคลมขอเงินคืนได้ง่ายขึ้น

ที่มาข้อมูล :

อ่านเพิ่มเติม :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *