ปัจจุบันวัฒนธรรมการดื่ม “ไวน์” (Wine) เพื่อสังสรรค์หรือเฉลิมฉลองในวันสำคัญหรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยรสชาติและกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ กระบวนการผลิตที่ซับซ้อน ละเอียดอ่อนทุกขั้นตอน ยิ่งได้จับคู่กับอาหารที่มีรสชาติเข้ากัน ก็ยิ่งช่วยเสริมบรรยากาศแห่งความสุขให้หอมหวานมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนน่าจะเคย ส่งไวน์ไปให้กับคนพิเศษ เพื่อน หรือคนในครอบครัวที่อยู่ห่างไกล เพื่อเป็นตัวแทนของความระลึกถึง แต่การจะส่งเครื่องดื่มชนิดนี้ไปให้ถึงมือผู้รับในสภาพสมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีความละเอียดอ่อนในเรื่องรสชาติและกลิ่นสูงมาก หากส่งไม่ถูกวิธี เช่น ไม่ควบคุมอุณหภูมิ ก็อาจทำให้คุณภาพของไวน์ลดลงได้ ดังนั้นวันนี้เราก็มี TIPS การเตรียมการส่งเครื่องดื่มไวน์แบบมืออาชีพง่าย ๆ ด้วย บริการขนส่งแบบเย็น มาฝากกัน
4 เทคนิคการส่งไวน์
อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าไวน์เป็นเครื่องดื่มที่ละเอียดอ่อน ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ โดยเฉพาะการขนส่งให้ประเทศที่มีสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างบ้านเรา ยิ่งต้องขนส่งแบบเย็นเพื่อไม่ให้รสชาติและกลิ่นของไวน์ผิดเพี้ยนไป โดยวันนี้เราก็มี 4 เทคนิคการส่งเครื่องดื่มไวน์แบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองมาฝากกัน
1. การห่อไวน์
ควรห่อขวดไวน์ด้วยห่อพลาสติกกันกระแทก ซึ่งมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบธรรมดาและแบบเป่าลมช่วยป้องกันแรงกระแทกระหว่างขนส่ง แถมยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและฝุ่นต่าง ๆ ให้ขวดไวน์ของเราดูสวยงามเมื่อไปถึงมือผู้รับ
2. การเลือกกล่อง
เลือกกล่องให้เหมาะสมกับขนาดของขวดไวน์ และต้องมีพื้นที่เหลือสำหรับใส่พลาสติกกันกระแทก แต่ไม่ควรมีพื้นที่ว่างให้ขวดไวน์ขยับเขยื้อนไปมาระหว่างขนส่ง เพราะอาจทำให้ขวดแตกเสียหายได้
3. การวางขวดไวน์
ควรจัดวางขวดไวน์ในลักษณะ “แนวตั้ง” เพื่อช่วยลดการสั่นสะเทือนของไวน์ในขวด และยังเป็นการลดพื้นที่ให้ขวดขยับเขยื้อนได้น้อยที่สุด นอกจากนั้นควรมีสติกเกอร์หรือสัญลักษณ์แปะบนกล่องให้วางแนวตั้งเท่านั้น รวมทั้งสัญลักษณ์เตือน “สินค้าแตกง่าย” หรือ “ห้ามโยน”
4. การเตรียมอุณหภูมิก่อนจัดส่ง
หัวใจสำคัญในการ ส่งไวน์คือการรักษาอุณหภูมิให้คงที่ โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาไวน์จะอยู่ที่ 6 – 18 องศาเซลเซียส ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของไวน์ หากไม่รักษาอุณหภูมิอาจทำให้รสชาติของไวน์ผิดเพี้ยนได้
เทคนิคการส่งไวน์
นอกจาก 4 เทคนิคที่เราได้กล่าวไปแล้ว การ ส่งเครื่องดื่มไวน์แบบเย็นยังควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ควบคุมอุณหภูมิของไวน์ให้เหมาะสม โดยที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบันมีด้วยกัน 3 แบบ
- กล่องกระดาษเย็น : เป็นกล่องกระดาษที่ถูกออกแบบให้กักเก็บความเย็นได้ดีกว่ากล่องกระดาษทั่วไป เนื้อกระดาษมีความหนา และเคลือบสารป้องกันความชื้น เหมาะสำหรับการขนส่งที่ใช้เวลาไม่นาน
- กล่องโฟม : มีขนาดใหญ่กว่ากล่องกระดาษ ทำให้สามารถใส่ขวดไวน์กับวัสดุทำความเย็นได้มากกว่า รักษาอุณหภูมิได้ดีกว่า ขนส่งได้นานกว่า
- กระเป๋าเก็บความเย็น : เป็นกระเป๋าที่ใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติเก็บความเย็น นิยมใช้ขนส่งยา เวชภัณฑ์ และไวน์ รักษาอุณหภูมิได้ยาวนาน เหมาะสำหรับการขนส่งระยะไกลที่ต้องใช้เวลานานหลายวัน
วิธีการแพ็กไวน์
เนื่องจากขวดไวน์ทำจากแก้ว จึงมีความเปราะบางและแตกง่าย ดังนั้น การแพ็กไวน์เพื่อจัดส่งไปให้ผู้รับที่อยู่ห่างไกล นอกจากจะต้องคำนึงถึงการรักษาอุณหภูมิแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความมั่นคง แข็งแรง ของขวดไวน์ ไม่ให้แตกเสียหายระหว่างการขนส่งด้วยเช่นกัน โดยวิธีการแพ็กไวน์ที่เหมาะสมมี 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ใช้กระดาษเหลือมาห่อหุ้ม
ก่อนจะใส่ขวดไวน์ลงกล่อง ควรใช้กระดาษเหลือมาห่อหุ้มขวดไวน์ไว้เพื่อช่วยลดแรงกระแทกระหว่างขนส่ง ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้ด้วย หากไม่ห่อด้วยกระดาษก็มีโอกาสที่ขวดไวน์จะมีรอยขีดข่วนหรือแตกระหว่างการขนส่ง
2. ใช้ถุงลมกันกระแทก
นอกจากการใช้กระดาษเหลือมาห่อหุ้มขวดไวน์ในชั้นแรกแล้ว เรายังควรใช้ถุงลมกันกระแทกที่มีลักษณะคล้ายหลอดซ้อนกันหลาย ๆ หลอดมาหุ้มขวดไวน์ไว้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งข้อดีของถุงลมนอกจากจะช่วยป้องกันแรงกระแทกได้แล้ว ยังช่วยล็อกขวดไวน์ไม่ให้ขยับเขยื้อนระหว่างการขนส่งอีกด้วย
3. บรรจุไวน์ใส่กล่อง
เมื่อห่อหุ้มด้วยวัสดุป้องกันการกระแทกเรียบร้อยแล้ว ให้เรานำขวดไวน์ใส่กล่องเตรียมส่ง โดยเราควรเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรติดต่อให้ชัดเจน ในกรณีที่ของอาจถูกตีกลับ ที่สำคัญคือควรแปะสติกเกอร์เตือนว่าเป็นสินค้าที่มีความเปราะบาง
การเก็บรักษาเพิ่มเติม
เพื่อคงรสชาติและกลิ่นของไวน์ไว้ได้มากที่สุดต้องเก็บไวน์ที่อุณหภูมิ 2 – 16 องศาเซลเซียส และจำเป็นต้องแยกเก็บไวน์กับสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ ผลไม้ และผัก เนื่องจากกลิ่นจากสินค้าเหล่านี้อาจแทรกซึมเข้าสู่ไวน์ เนื่องจากจุกไม้ก๊อกของขวดไวน์มีความชื้นต่ำและแห้ง ทำให้กลิ่นเหล่านี้สามารถซึมผ่านเข้ามาได้ และอาจทำให้กลิ่นดั้งเดิมของไวน์สูญเสียไป นอกจากนี้ยังควรเก็บไวน์ให้พ้นจาก “แสงแดด” เพราะความร้อนหรือความสว่างจากแสงแดด มีผลต่อรสชาติและกลิ่นที่เปลี่ยนไป
เลือกใช้บริการขนส่งไวน์มืออาชีพ
สุดท้ายนี้แม้ว่าเราจะแพ็กขวดไวน์ได้แน่นหนาแข็งแรงแค่ไหน สำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องยากและเสียเวลา ทางออกคือการเลือกใช้บริการขนส่ง ส่งเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ มีลูกค้าให้ความไว้วางใจใช้บริการจำนวนมาก และที่สำคัญคือต้องมีบริการส่งไวน์แบบเย็นหรือมีการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิหรือที่เรียกว่า Chilled เพื่อรับประกันว่าไวน์ทุกขวดที่เราส่งไปจะถึงมือผู้รับโดยที่ยังคงคุณภาพเสมือนแช่อยู่ในตู้เย็นที่บ้านนั่นเอง
ที่มาข้อมูล :
- https://orsgo.com/ไวน์แช่ตู้เย็นได้ไหม/
- https://www.artitep2523.com/399-2/
- https://thestandard.co/jacobscreek-wine-storage/
- https://hongthaipackaging.com/blog/transport-glass-products-with-postal-boxes/
- https://thestandard.co/jacobscreek-how-to-pack-wine-in-luggage/
อ่านเพิ่มเติม :